รองเท้าเซฟตี้ (SafetyShoes) ของแพงโกลินวัตถุประสงค์หลักที่ลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อไปใช้นั้นก็คือเพื่อปกป้องเท้าลดอุบัติเหตุจากการทำงาน เพราะ แพงโกลิน มุ่งมั่นพัฒนาตอบสนองตรงกับความต้องการในการทำงานของอุตสาหกรรมต่างๆของลูกค้า ถ้าเรามาแบ่งประเภทการใช้งานตามส่วนประกอบของรองเท้าเซฟตี้ รองเท้าเซฟตี้ของแพงโกลิน จะมีรุ่นที่เหมาะกับหน้างาน ดังต่อไปนี้
1.พื้นรองเท้าเซฟตี้แพงโกลิน
1.1 พื้นรองเท้าเซฟตี้โพลียูรีเทน (Polyurethane) หรือที่เรียกสั้นๆว่า พื้น PU เป็นพื้นที่มีน้ำหนักเบา กันลื่นได้ ป้องกันความร้อนได้ 160 °c เหมาะสำหรับผู้ปฎิบัติงานที่อยู่ในคลังสินค้า งานซ่อมบำรุง งานอุตสาหกรรมอาหารและยา รุ่นที่ยอดนิยมขายดีของแพงโกลินก็คือ รุ่น 9501U , รุ่น 9701U (รองเท้าเซฟตี้หุ้มส้นราคาเพียง700นิดๆ) , และ รุ่น 0282U (รองเท้าเซฟตี้ หนังแท้ Oil Nubuck หุ้มส้น ทรงแฟชั่นใส่คู่กับยีนส์ได้)
1.2 พื้นรองเท้าเซฟตี้โพลียูรีเทนแบบ ESD เป็นพื้นรองเท้าเซฟตี้รุ่นใหม่ล่าสุดของแพงโกลิน ที่มีคุณสมบัติเหมือนพื้น PU ทุกอย่าง แต่จะพิเศษกว่าพื้น PU ทั่วๆไป คือ พื้นESDของเเพงโกลิน ผลิตมาเพื่อป้องกันการถ่ายเทประจุอย่างฉับพลันเหมาะสำหรับ ผู้ปฎิบัติงานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องมีการสัมผัสชิ้นงานและชิ้นส่วนนั้น ที่ซึ่งต้องยอมให้ประจุไฟฟ้าไหลผ่าน ( < 3.5 * 107 โอห์ม ) ตามที่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยกำหนด รุ่นที่แพงโกลินมีจำหน่าย คือ รุ่น 9501UZZS
คุณลักษณะและการดูแลรักษารองเท้าพื้นโพลียูรีเทน (PU) เนื่องจากพื้นรองเท้าเซฟตี้แบบ PU มีคุณสมบัติย่อยสลายหรือเสื่อมสลายตามอายุ (รองเท้าเซฟตี้แพงโกลินมีอายุการจัดเก็บ 18 เดือน ) เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่หากนำมาใช้งานอย่างต่อเนื่อง เเละมีการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี จะสามารถยืดอายการใช้งานของรองเท้าได้ถึง 3 ปี
1.3 พื้นรองเท้าชนิดยางหล่อ เป็นพื้นรองเท้าเซฟตี้ที่ทำมาจากยาง คุณสมบัติเด่นของพื้นยางหล่อชนิดนี้คือ ทนความร้อนได้ 350 องศา
กันลื่น ทนน้ำมัน ทนสารเคมี ได้ดี เหมาะสำหรับ อุตสาหกรรมหนัก เช่น ผลิตเหล็ก ผลิตรถยนต์ ผลิตแก้ว เหมืองแร่ งานเชื่อม งานกลึงโลหะ และน้ำหนักของพื้นรองเท้ายางหล่อเซฟตี้จะมีน้ำหนักมากกว่าพื้นรองเท้าเซฟตี้โพลียูรีเทน (PU) รุ่นนี้ รุ่นยอดนิยมที่ขายดีเริ่มต้นที่ 800 นิดๆ ก็คือรุ่น 026R รองเท้าเซฟตี้ทรงหุ้มส้น และ รุ่น 9507R รองเท้าเซฟตี้ทรงบู๊ทสูง
1.4 พื้นรองเท้าชนิดยางสำเร็จรูป เป็นพื้นรองเท้าเซฟตี้ที่ทำมาจากยาง คุณสมบัติเด่นของพื้นยางหล่อชนิดนี้คือ ทนความร้อนได้ 350 องศา
กันลื่น ทนน้ำมัน ทนสารเคมี ได้ดี เหมาะสำหรับ อุตสาหกรรมรถยนต์ อาหาร และยา รองเท้าเซฟตี้รุ่นนี้ มีสีขาว เป็นรองเท้าเซฟตี้ทรงแฟชั่น ที่ผู้หญิงใส่ก็ได้ ผู้ชายใส่แล้วก็ดูดี เริ่มต้นที่ 1000 นิดๆ ที่แพงโกลินขายดี คือรุ่น 2001C และ รุ่น 2012C รองเท้าเซฟตี้ทรงหุ้มส้น
ไม่เพียงเท่านั้นพื้นรองเท้าชนิดยางสำเร็จรูปยังผลิตออกมาเป็น รองเท้าเซฟตี้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ออกแบบให้รองเท้าหน้าแคบ น้ำหนักจะเบาเป็นพิเศษ สวมใส่สบาย รุ่นที่ยอดนิยมสำหรับผู้หญิง อย่างรุ่นสีดำ 641 หรือ สีน้ำตาล 654C หรือ รุ่นที่ต้องสั่งผลิตพิเศษ 8562C (รอสินค้าประมาณ 30-45 วัน)
2.หัวกันกระแทกของรองเท้าเซฟตี้
หัวกันกระแทกของรองเท้าเซฟตี้แพงโกลินจะอยู่บริเวณปลายเท้าป้องกันอุบัติเหตุจากนิ้วเท้าโดยที่รองเท้าเซฟตี้แพงโกลินมีให้เลือก 2 ประเภท ได้แก่
1.1 รองเท้าเซฟตี้หัวเหล็ก สามารถรับแรงกระแทกได้ 200 จูล มาตรฐานหัวเหล็กรองเท้าเซฟตี้ของแพงโกลินจะได้มาตรฐาน EN22568:2019
1.2 รองเท้าเซฟตี้ หัวคอมโพสิต ทำมาจากพลาสติกที่มีความเหนียว และทนทานสูง รับน้ำหนักได้เทียบเท่าแบบหัวเหล็ก โดยแบบหัวคอมโพสิตจะมีน้ำหนักเบากว่าเหล็ก 40 % สามารถรับแรงกระแทกได้ 200 จูล มาตรฐาน หัวคอมโพสิต รองเท้าเซฟตี้ของแพงโกลินจะได้มาตรฐาน EN22568:2019 แพงโกลินมีรองเท้าเซฟตี้หัวคอมโพสิต รุ่น 9811U ขายแล้วเริ่มต้นที่ 1340 บาท เท่านั้น
3.แผ่นพื้นรองเท้าเซฟตี้ป้องกันของมีคมแทงทะลุ
แผ่นรองพื้นรองเท้าเซฟตี้แพงโกลินที่ทำมาจากแผ่นใยสังเคราะห์คอมโพสิต จะมีไว้สำหรับป้องกันการแทงทะลุจากของมีคม หรือตะปู สามารถทนแรงทะลุได้ 1,100 นิวตัน ผ่านได้มาตรฐาน EN22568:2019 ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าต้องใช้แผ่นรองพื้นคอมโพสิตโดยสังเกตุ จาก สัญลักษณ์ G เช่น รุ่น 0284UZGZ หรือ รุ่น 0203UZGZ รองเท้าเซฟตี้รุ่นที่สามารถเสริมแผ่นพื้นป้องกันของมีคมแทงทะลุจะแพงกว่า 130 บาท เมื่อเทียบกับรองเท้าเซฟตี้ชนิดเดียวกันที่ไม่ได้เสริมแผ่นพื้นป้องกันของมีคมแทง
4.หนังรองเท้าเซฟตี้
หนังรองเท้าเซฟตี้ผลิตจากโรงงานรองเท้าเซฟตี้ที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี แพงโกลินจะนำ หนังวัวแท้ ที่คัดสรรคุณภาพมาเป็นอย่างดีแล้วจาก บริษัท CPL หนังวัวฟอกสำเร็จรูปรายใหญ่ ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลิตภัณฑ์ของ บริษัท CPL ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของตราสินค้า (Brand name) เช่น Adidas, Timberland, Lacost, Reebok, Rockport เป็นต้น เพื่อเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตรองเท้ากีฬาและรองเท้าลำลองชั้นนำของโลก
วิธีการเลือกขนาดไซส์รองเท้าเซฟตี้ให้เหมาะสม
- ควรทดลองสวมรองเท้าเซฟตี้ในช่วง เวลา 13.00 – 16.00 น. เพราะในช่วงเช้าอากาศเย็นเท้าจะมีการหดตัว แต่ ช่วงบ่ายเท้าจะขยายตัวเหมาะกับการทดลองสวมรองเท้าเซฟตี้
- การสวมใส่รองเท้าเซฟตี้ ควรเลือกขนาดรองเท้าที่มีขนาดหลวมกว่ารองเท้าที่สวมใส่ปกติเล็กน้อย
เพื่อไม่ให้หัวเหล็กบีบปลายเท้า และ กดทับหลังเท้า เพื่อความสบายเท้าขณะสวมใส่เวลาทำงานในสถานที่ต่างๆ