
บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CPL Group) ตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม “รองเท้าเซฟตี้” ของประเทศไทย ด้วยการยกระดับมาตรฐานความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคม ผ่านการได้รับอนุญาตจาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO ในการใช้ เครื่องหมายรับรองการแสดงการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร อย่างเป็นทางการ
คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint) คืออะไร?
ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่องค์กร ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่าง ๆ ช่น การใช้น้ำมันหรือการใช้ไฟฟ้าเพื่อการผลิตสินค้าของเครื่องจักร , การใช้ไฟฟ้าในอุปกรณ์สำนักงาน การบริหารจัดการของเสีย , การขนส่ง เป็นต้น โดยผลลัพธ์ที่ได้จะถูกแสดงในรูปของ ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อนำไปวิเคราะห์แนวทางและโอกาสในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
การวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (SCOPE) แบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้
- SCOPE I: การปล่อยก๊าซทางตรง (Direct Emissions)
เกิดจากกิจกรรมโดยตรงขององค์กร เช่น
1.การเผาไหม้ของเครื่องยนต์หรือเครื่องจักร
2.การใช้สารเคมีในกระบวนการบำบัดน้ำเสีย
3.การรั่วไหลจากกระบวนการหรือกิจกรรมอื่น ๆ
ตัวอย่าง: หากองค์กรเผาไหม้เชื้อเพลิงในการเดินเครื่องจักรหรือขนส่งผลิตภัณฑ์ ปริมาณก๊าซที่ปล่อยจะถูกนับเป็น SCOPE I - SCOPE II: การปล่อยก๊าซทางอ้อมจากการใช้พลังงาน (Energy Indirect Emissions)
เช่น
1.ไฟฟ้าที่องค์กรซื้อจากการไฟฟ้าภายนอก
2.ความร้อนหรือไอน้ำที่ซื้อจากซัพพลายเออร์
3.ปริมาณคาร์บอนที่เกิดจากการผลิตพลังงานเหล่านี้ จะถือว่าเป็นการปล่อยก๊าซทางอ้อม แต่ต้องนับรวม ให้ครบถ้วนในรายงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร - SCOPE III: การปล่อยก๊าซทางอ้อมอื่น ๆ (Other Indirect Emissions)
เป็นกิจกรรมทางอ้อมที่ไม่ได้อยู่ใน SCOPE I หรือ II ซึ่งเกี่ยวข้องกับองค์กรแบบทั้งกระบวนการ โดยมีตัวอย่างดังนี้
1.การขับรถเดินทางพนักงาน
2.การสั่งซื้ออุปกรณ์เซฟตี้หรือเครื่องใช้สำนักงานจาก Supplier ต่างๆ โดยต้องมีมาตรฐานผ่านการรับรองว่าสินค้านั้นๆได้มีการวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์
ประโยชน์ของได้คาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับองค์กร
- สร้างภาพลักษณ์ขององค์กรที่ดีด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (Sustainability)
- มีประโยชน์ต่อชุมชมและสังคมรอบข้าง
- ลดต้นทุนด้านพลังงาน
- ปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานสากล
CPL Group กับความเป็นผู้นำด้านการผลิตรองเท้าเซฟตี้หนังแท้ในไทย
ความชำนาญในอุตสาหกรรมเซฟตี้: แพงโกลินมีประสบการณ์ยาวนานหลายทศวรรษในการผลิตรองเท้าเซฟตี้เพื่อความปลอดภัย (Safety Footwear) ได้มาตรฐานคุณภาพระดับสากล ครอบคลุมหลากหลายประเภทการใช้งาน ทั้งอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ ก่อสร้าง โลจิสติกส์ และสายงานอื่น ๆ ที่ต้องการรองเท้าคุณภาพสูง
นวัตกรรมเพื่อความปลอดภัย: CPL Group ลงทุนในการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลิตรองเท้าที่ตอบสนองต่อหน้างานของลูกค้าและกฎหมายด้านความปลอดภัยในการทำงานรูปแบบใหม่ ๆ ให้มีความทนทาน และสวมใส่สบายยิ่งขึ้น
มาวันนี้แพงโกลิน ยกระดับภาพลักษณ์องค์กรด้วยมาตรฐานการผลิตใหม่ ลดก๊าซเรือนกระจก
กระบานการผลิตรองเท้าเซฟตี้ของแพงโกลินได้ผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจนกระทั่งได้รับเครื่องหมายรับรองการลดก๊าซเรือนกระจกหมายความว่า กระบวนการผลิตของ CPL Group ได้รับการตรวจสอบ (Verification) และประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานของ TGO ครอบคลุมทุกขั้นตอนในห่วงโซ่อุปทาน
ซึ่งแพงโกลินได้นำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ Smartsense มาติดตั้งใช้งานในสายการผลิตที่ช่วยรายงานผลประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร เพื่อให้รองเท้าเซฟตี้ผลิตออกมามีคุณภาพ มีความปลอดภัย ส่งตรงถึงการใช้งานของลูกค้า
การรายงานผลจะเปลี่ยนเเบบ Real Time ถ้าเครื่องจักรมีปัญหาที่จุดไหนสามารถส่งข้อความไปที่มือถือผ่านแอพพลิเคชั่น Line ได้ เพราะถ้าการทำงานเครื่องจักรเต็มประสิทธิภาพจะช่วยให้ผลผลิตออกมา มีคุณภาพแถมยังช่วยลดการสูญเสียวัตถุดิบ ลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้ด้วยค่ะ (ถ้าลูกค้าสนใจสอบถามแอดมินได้นะคะ ^^ ยินดีนำระบบอัจฉริยะ Smartsense ไปทดลองใช้ฟรีก่อนได้ค่ะ )เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่สะท้อนความมุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อโลกร้อน (Climate Change) สอดคล้องกับเทรนด์การบริโภคอย่างรับผิดชอบ (Responsible Consumption) ทั้งในประเทศและทั่วโลก

ประโยชน์ต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
อากาศสะอาดขึ้น: เมื่อกระบวนการผลิตมีการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม ย่อมช่วยลดฝุ่น ควัน และมลภาวะในบริเวณโรงงาน ส่งผลให้สุขภาพของชุมชนและพนักงานดีขึ้น
การจ้างงานและรายได้เสริม: CPL Group เป็นโรงงานขนาดใหญ่ที่สร้างงานให้คนในพื้นที่ พร้อมทั้งสนับสนุนกิจกรรมพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน
สร้างต้นแบบอุตสาหกรรมยั่งยืน: ความสำเร็จของ CPL Group ช่วยเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ต้องการดำเนินธุรกิจในแนวทางสร้างความยั่งยืน (Sustainability)
สร้างความเชื่อมั่นสู่ตลาดโลก
มาตรฐานสากลเทียบเท่าแบรนด์ชั้นนำ: การได้รับเครื่องหมายรับรองฯ จาก TGO ช่วยเพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือให้กับ CPL Group ในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ให้ความสำคัญกับคาร์บอนฟุตพริ้นต์เป็นอย่างยิ่ง
ขยายโอกาสการส่งออกและพาร์ทเนอร์ธุรกิจ: ผู้ค้าปลีกรายใหญ่และแบรนด์ต่างชาติหลายราย มองหาโรงงานที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นซัพพลายเออร์ เมื่อ CPL Group มีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมสูง ย่อมเปิดโอกาสสร้างความร่วมมือใหม่ ๆ ในระดับสากล
ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนในระยะยาว
คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร: CPL Group ตั้งเป้าพัฒนานวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในส่วนของการผลิตและการเลือกใช้วัสดุ ลดการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลือง และเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน
การมีส่วนร่วมของพนักงาน: องค์กรปลูกฝังวัฒนธรรมการทำงานที่คำนึงถึงความยั่งยืน ทำให้พนักงานเกิดความภูมิใจและกระตือรือร้นในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงและรับผิดชอบต่อโลก

สรุป
บมจ. ซีพีแอล กรุ๊ป ในฐานะผู้ผลิต รองเท้าเซฟตี้แพงโกลิน เบอร์ 1 ของไทย มายาวนานกว่า 40 ปี ได้พิสูจน์แล้วว่าการยกระดับมาตรฐานและรักษาภาพลักษณ์องค์กร “ที่ยั่งยืน” ไม่ใช่เพียงแนวคิด แต่เป็น “แนวทางปฏิบัติ” ที่ผสมผสานการนำระบบอัจฉริยะ Smartsenseมาสร้างประโยชน์แก่สายการผลิตรองเท้าเซฟตี้และชุมชมสังคมรอบข้างอย่างเป็นรูปธรรม
การได้รับ เครื่องหมายรับรองการแสดงการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (การลดก๊าซเรือนกระจกจาก TGO ) จึงเปรียบเสมือนรางวัลที่แสดงถึงความตั้งใจในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และพร้อมก้าวสู่เวทีโลกด้วยความเชื่อมั่นในคุณภาพและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมขององค์กรไทยอย่างแท้จริง